ในอนาคตอันใกล้ ชาวไทยจะอยู่เย็นเป็นสุข
|
โครงการน้ำท่วมกินผัก มองเห็นอนาคตของประเทศไทยอันใกล้ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับดังนี้:
1.
สุขภาพ+การศึกษาของประชาชน
2.
สิ่งแวดล้อม +
ภัยธรรมชาติ
3.
เศรษฐกิจ +
การเมือง
4.
ประเทศไทยใหม่
(มหาอำนาจใหม่)
รายละเอียดของแต่ละเรื่องมีดังนี้ :
1.
สุขภาพ + การศึกษาของประชาชน
ระบบการรักษาสุขภาพ,
รักษาโรค แบบเดิมที่ปฏิบัติกันอยู่ยังไม่มีประสิทธิภาพดีพอ
เพราะการรักษาบางเรื่องยังไม่แก้ที่ต้นเหตุ จึงเป็นเหตุให้มีคนป่วยเต็มบ้านเมือง วิธีหลักๆในการแก้ปัญหาคือ
1.1
ศึกษาต้นเหตุของปัญหา,
ต้องรู้กฎของธรรมชาติ, รู้การรักษาแบบองค์รวม, เห็นความสัมพันธ์ระหว่างกายและใจ
1.2
ดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกฎของธรรมชาติ
(เมื่อรักษาจนหายป่วยแล้ว)
1.3
เมื่อดำเนินชีวิต
(ตามข้อ 1.2 ) ไประยะหนึ่ง
สุขภาพจะดีขึ้นทั้งกายและใจเพียงทานอาหารสุขภาพ (เมนูอาหารต้านโรค) ติดต่อกัน 14 วัน (โดยพฤติกรรมอื่นคงเดิมเพื่อให้รู้ว่าสุขภาพเปลี่ยน
เพราะเกิดจากอาหารอย่างเดียว) จิตใจก็เริ่มจะเปลี่ยน จิตจะสงบเยือกเย็นกว่าก่อน มีสติแยกแยะสิ่งไหนดี/ไม่ดีต่อร่างกาย เป็นต้น
เมื่อเราเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างอื่นด้วยเช่น ออกกำลังกาย , พักผ่อน, และฝึกจิต ่ สุขภาพเราก็จะยิ่งดี (วงจรจะเป็น ่ เปลี่ยนกาย ่ เปลี่ยนจิต ่ เปลี่ยนกาย ่ เปลี่ยนจิต ...อาจเข้าสู่สภาวะหลุดพ้นได้ถ้าปฏิบัติจริงจังต่อเนื่องเป็นเวลานานพอ)
1.4
สติปัญญา (ของประชาชน) โดยรวมจะดีขึ้น ่ การศึกษาจะดีขึ้น ่ ศีลธรรมจะมีมากขึ้น (เพราะเกิดจากปัญญาที่เห็นชอบ) ่ ความคิดสร้างสรรค์จะมีมากขึ้น ่ ทั้งอายุยืนเพราะสุขภาพดีและบวกความคิดสร้างสรรค์ ่ ผลงานก็ทั้งดีทั้งมากขึ้น ่ ประเทศเจริญขึ้น ่ มหาอำนาจใหม่ (ดูตัวอย่างประเทศอิสราเอล ่ เจริญเพราะต้องพัฒนาตนเองให้อยู่รอดพ้นจากความบีบคั้นของ
ศัตรูรอบข้าง
และรวมทั้งสภาพภูมิประเทศอันกันดาร,
แต่ไทยพัฒนาจาก ปัญญาและความดี ซึ่งจะนำสันติสุขมาสู่ประชาคมโลกอย่างแท้จริง) ่ กฎของธรรมชาติ ่ เลวร้ายถึงที่สุด
จะตีกลับเป็นดีที่สุดเช่นกัน ่ พลังหยินสุดๆตีกลับเป็นพลังหยางสุดๆ ่ พลังหยางสุดๆตีกลับเป็นพลังหยินเช่นกัน (ดูรายละเอียดในข้อมูลโครงการฯของเรา)
1.5
ที่กล่าวมาข้างต้นประเทศของเราอาจดำเนินไปในทางตกต่ำลงอีกหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ชนิดถอนรากถอนโคน เช่น ที่กล่าวมาข้างต้น
2.สิ่งแวดล้อม +
ภัยธรรมชาติ
เกษตรเคมีจะเปลี่ยนเป็นเกษตรอินทรีย์มากขึ้นๆจนเป็นทั้งประเทศ ดังนั้นสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสัตว์ต่างๆที่อาศัย ก็จะมีสภาวะที่ดีขึ้นเป็นธรรมชาติมากขึ้น ภัยธรรมชาติลดลง
เพราะจะมีการขุดบ่อเพื่อทำเกษตรอินทรีย์พอเพียงป้อนผลผลิตทำอาหารให้เป็นยา บ่อน้ำทั่วประเทศจะทำหน้าที่เหมือนตุ่มกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี ่ ดังนั้นจะแก้ปัญหาน้ำแล้ง ่ ปริมาณน้ำที่เก็บได้โดยรวมทั่วประเทศประมาณ 4,500 - 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ่ ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ในระดับหนึ่ง
ค่าใช้จ่ายในการขุดบ่อเอามาจากเงินที่ประหยัดได้จากค่ารักษาพยาบาลที่รัฐต้องจ่าย
275,000 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้จะมีการปลูกป่าไม้เบญจพรรณ
เลียนแบบป่าธรรมชาติ
เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ที่ประเทศไทยเคยมีอุดมสมบูรณ์ในอดีต (ป่าไม้ 70-80% ปัจจุบัน 30% กว่า) ซึ่งคงต้องใช้เวลา10-20 ปี ภาวะน้ำท่วมฉับพลันดินโคลนถล่มก็จะลดลง การตัดไม้ทำลายป่าจะลดลงถ้าเราหางานให้ชาวบ้านมีรายได้ดีเช่น
โฮมสเตย์, เมดิคอลฮับ, หรือสมัครเป็น
อสม ทำอาหารเป็นยา (เป็นหมอธรรมชาติบำบัด ่ โดยใช้ “อาหารต้านโรค” นำ) ภาวะโลกร้อนก็จะดีขึ้น เพราะเราไม่ขยายความเจริญทางวัตถุ
(ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในบรรยากาศ)
แต่ส่งเสริมรายได้จากเกษตร, สาธารณสุข, ท่องเที่ยว, บริการ,
ธุรกิจสร้างสรรค์, ธุรกิจพลังงานทดแทน,
ธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยเป็นต้น
ให้มากขึ้นแทนอุตสาหกรรม, การส่งออก, ยานยนต์,
ก่อสร้างโรงผลิตพลังงานจากวัตถุดิบ เช่น ถ่านหิน, น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ เพิ่มการปล่อย CO2
3.เศรษฐกิจ +
การเมือง
เศรษฐกิจ เราจะดีขึ้นแบบก้าวกระโดด เพราะ
3.1 ผลิตภาพมีคุณภาพสูงขึ้น
เพราะประชาชนมีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งมีจำนวนสูงขึ้นด้วย เพราะอายุยืนขึ้นแบบแข็งแรง
3.2 รัฐบาลมีรายได้มากขึ้น
จากการประหยัดค่ารักษาพยาบาลปีละ 275,000 ล้านบาท
3.3 ประชาชนโดยรวมมีรายได้มากขึ้น เช่น
- นักธรรมชาติบำบัด / อสม มีรายได้ 15,000 – 20,000 บาท/เดือน/คน
- เกษตรกรมีรายได้ 10,000บาท/เดือน/คน (ราคาขายเพิ่มเกือบ
2 เท่า)
- ประชาชน (โดยเฉพาะชาวบ้านในชุมชน) จะมีรายได้จาก โฮมสเตย์/ลองสเตย์, เมดิคอลฮับ, ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ + วัฒนธรรม
+รักษาระบบนิเวศ และครัวอาหารโลก
แทนนักธุรกิจมากขึ้น
เพราะเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ+มีความรู้ /ปัญญามากขึ้น ่ ฉลาดขึ้น
ต่างประเทศจะบินมาเมืองไทยมากขึ้น ่ นำเงินเข้ามามากมายจากกิจกรรมดังกล่าว
โดยเฉพาะเมื่อข่าวเรื่องอาหารต้านโรค+การรักษาแบบองค์รวม ่ ดังไปถึงเมืองนอกว่า
ทั้งถูกและดีมีคุณภาพในการรักษาดีกว่าโรงพยาบาลในเมืองปัจจุบัน ยกตัวอย่างอากาศในโรงพยาบาลมีแต่เชื้อโรค
ในชุมชนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในป่าหรือใกล้ป่า
อากาศดีต่างกันมาก การหายป่วยจะ
เร็วกว่าดีกว่าในโรงพยาบาลมากๆ
3.4 ถ้าจะให้ดี
รายได้จากธุรกิจในประเทศควรจะเพิ่มเป็น 70% และส่งออกเป็น 30% หรือน้อยกว่ายิ่งดี
เศรษฐกิจโลกเป็นอะไรไป เราก็ไม่เป็นไร
ดูตัวอย่างประเทศจีน ขณะนี้ก็เปลี่ยนนโยบายเป็นพึ่งรายได้จากในประเทศมากขึ้น เพราะมีเสถียรภาพมากกว่าพึ่งส่งออก
3.5
ลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่าง
เมืองกับชนบทดังกล่าวแล้วข้างต้น
3.6
เป็นแหล่งรองรับแรงงานตกงานจากวิกฤตเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ เป็นกันชนอย่างดี เพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีมีการปลดพนักงานๆ
จะกลับบ้านนอกส่วนใหญ่
ซึ่งต้องพึ่งภาคเกษตร
แต่ก็มีปัญหาเพราะ ละทิ้งไปนาน
แต่โชคดีที่มีโครงการฯของเรารองรับ การรื้อฟื้นความรู้ประสบการณ์ในอดีตไม่ยากเกินไป แต่ความพร้อมในการผลิต อาจต้องมีการปรับปรุงเล็กน้อย ที่สำคัญมีตลาดรองรับอยู่แล้ว
คือ อสม ทำ อาหารต้านโรค+ผู้ป่วยอยู่ทั่วประเทศ
3.7 ระบบทุนนิยม
ที่มุ่งเน้นกำไรเป็นเป้าหมายโดยไม่สนใจการทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติ,
สิ่งแวดล้อม, ระบบนิเวศ, มีความโลภ, เห็นแก่ตัวเป็นตัวนำ, ขาดศีลธรรม, จริยธรรม
จะค่อยๆล่มสลาย คนจะสนใจสินค้าที่ดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น
ผลิตผลการเกษตรอินทรีย์, ปศุสัตว์อินทรีย์, ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ฯลฯ มากขึ้นๆ จนในที่สุด ระบบเศรษฐกิจ
พอเพียงจะเข้ามาแทนที่ เช่น
ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises)
จะมีคนนิยมมากขึ้นเป็นต้น และท้ายสุดก็จะเป็นเศรษฐกิจที่มั่นคง/ยั่งยืนของมนุษย์ชาติจริงๆ แล้ว ระหว่างที่เศรษฐกิจปรับเปลี่ยนจากทุนนิยม ่ เศรษฐกิจพอเพียง
จะมีการเปลี่ยนแปลงทางจิตไป ในทางที่ดีขึ้นด้วย ่ มีศีลธรรมมากขึ้น, คุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น, ผู้คนจะมีจิตใจโอบอ้อมอารีมากขึ้น ่ เหมือนในอดีตที่เราเคยเป็นมา “สยามเมืองยิ้ม”
การเมือง เราจะดีขึ้นแน่นอน เพราะประชาชนมีสุขภาพดี ่ ศีลธรรม ่ ปัญญา ่ คุณธรรมดียิ่งขึ้น
กายดีส่งอิทธิพลใจดีตามดังอธิบายก่อนหน้านี้ ่ ฐานมวลชนดี ่ ผู้แทนดี ่ประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ
4.ประเทศไทยใหม่ (มหาอำนาจใหม่)
ตามที่ได้บรรยายมาตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 3 จะสรุปได้สาระสำคัญดังนี้
4.1
เมื่อเรารักษากายให้หายป่วยมีสุขภาพดี
รู้วิธีที่จะดูแลให้ตนเองมีสุขภาพดี
ตลอดไปอย่างยั่งยืน ก็จะ
4.2
กระทบจิตใจ ให้เกิดการพัฒนาให้ดีขึ้นตามไป ดังนั้นทั้งกายและใจดีขึ้น ่ สติปัญญาดีขึ้น ่ มีศีลธรรมคุณธรรมมากขึ้น ่ คุณภาพประชากรดีขึ้น ่ ดังนั้น
4.3
ผลผลิตของทั้งประเทศ รวมทั้งคนดี และมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ประเทศไทยเจริญขึ้น ่ ประเทศไทยใหม่ ่ มหาอำนาจใหม่ครับ (อาจเป็น ไทยเมืองยิ้ม แทนสยามเมืองยิ้มในอดีต)
ข้อมูลสนับสนุน
1.
Chemotherapy
p.234-240
2.
ร.พ.บู๊เต็กพวด
3.
มหาอำนาจยุคใหม่
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น